การค้นหาขั้นสูง
ผู้เยี่ยมชม
17434
อัปเดตเกี่ยวกับ: 2555/01/23
 
รหัสในเว็บไซต์ fa11967 รหัสสำเนา 21057
คำถามอย่างย่อ
ตักวาหมายถึงอะไร?
คำถาม
ตักวาหมายถึงอะไร?
คำตอบโดยสังเขป

ตักว่า คือ พลังหนึ่งที่หยุดยั้งจิตด้านใน ซึ่งการมีอยู่ของมนุษย์คือสาเหตุของการมีพลังนั้น และพลังดังกล่าวจะพิทักษ์ปกป้องมนุษย์ให้รอดพ้นจากการกระทำความผิดฝ่าฝืนต่างๆ ความสมบูรณ์ของตักวานอกจากจะช่วยทำให้มนุษย์ห่างไกลจากความผิดบาป และการก่ออาชญากรรมต่างๆ แล้ว, ยังช่วยมนุษย์ให้หลีกเลี่ยงจากความเคลือบแคลงสงสัยต่างๆ อีกด้วย ตักวา จึงหมายถึงความสำรวมตนต่ออัลลอฮฺ, ตักวานั้นมีหลายขั้นตอน, ซึ่งรายละเอียดต่างๆ และกิ่งก้านสาขาจะกล่าวอธิบายในช่วงคำตอบโดยละเอียด

คำตอบเชิงรายละเอียด

ตักวาตามหลักมาจากรากศัพท์คำว่าวะกอ ยะกี วะกอยะฮฺหมายถึงการตกลง หรือการมอบตัวเองไว้ในสถานที่กำบัง[1] ส่วนในความหมายของอิสลาม, หมายถึงการไม่มักมากและป้องกันตัวเองต่อความผิดบาป,

อีกนัยหนึ่ง ตักวา คือพลังหนึ่งที่ยับยั้งมนุษย์ในลักษณะที่เป็นความเคยชินของจิตวิญญาณ หรือพลังด้านในที่มีอยู่ในตัวมนุษย์ ซึ่งการมีมนุษย์นั่นเองทำให้เกิดมีพลังนี้เกิดขึ้น หน้าที่ของพลังนี้คือ การพิทักษ์ปกป้องมนุษย์จากความเลยเถิดของตัณหาราคะ และการล่วงละเมิดต่อการกระทำความผิดต่างๆ ความสมบูรณ์ของตักวา นอกจากจะช่วยทำให้มนุษย์ห่างไกลจากความผิดบาปและการก่อกรรมชั่วอื่นๆ แล้ว ยังช่วยปกป้องมนุษย์ให้รอดพ้นจากความเคลือบแคลงสงสัยต่างๆ อีกด้วย

โองการอัลกุรอาน และฮะดีซต่างๆ, เช่น คำกล่าวของท่านอิมามอะลี (.) ท่านได้กล่าวอธิบาย และเปรียบเทียบตักวาไว้อย่างมากมาย ซึ่งจะขอกล่าวถึงบางประเด็นเหล่านั้น เช่น ที่กล่าวว่า :

1. เสบียงที่สะสมไว้ : จะเห็นว่าอัลกุรอานได้เปรียบ ตักวา เหมือนกับเสบียงที่ตระเตรียมเอาไว้ และถือว่านั่นคือ เสบียงที่ดีและประเสริฐที่สุด กล่าวว่าและสูเจ้าจงเตรียมเสบียงเถิด แท้จริงเสบียงที่ดีที่สุดนั้นคือความสำรวมตนต่อบาป[2]

2. อาภรณ์ : อัลกุรอาน ได้เปรียบเทียบตักวาว่า คล้ายกับเสื้อผ้าอาภรณ์ และถือว่านั่นคือ อาภรณ์ที่ดีที่สุด: “อาภรณ์ และเครื่องนุ่งห่มแห่งความสำรวมตนนั่นคือ สิ่งที่ประเสริฐยิ่ง[3]

3.ป้อมปราการที่แข็งแรง : เมื่อเผชิญหน้ากับอันตรายต่างๆ จากบาปกรรม: ท่านอิมามอะลี (.) กล่าวว่า: “โอ้ ปวงบ่าวของพระเจ้าเอ๋ย พึงสังวรไว้เถิดว่าแท้จริง ความสำรวมตนต่อพระเจ้าคือ บ้านอันมั่นคงแข็งแรง[4]

4. พาหะนะที่แสนเชื่อง นายแห่งศรัทธาชนผู้มีความสำรวมตนเป็นเลิศได้กล่าวไว้ในประโยคคำพูดอื่นว่า :ส่วนความสำรวมตนต่อพระผู้เป็นเจ้านั้นคือ พาหนะที่แสนเชื่องที่ยื่นบังเหี้ยนให้เจ้าของมันขี่ แล้วมันจะนำพวกเขาไปสู่สรวงสวรรค์[5]

5. นักปราชญ์ผู้อาวุโสบางท่าน, ได้นำเอาตักวาไปกล่าวเปรียบเทียบกับสภาพของคนๆ หนึ่งว่า เหมือนกับเขากำลังเดินผ่านเส้นทางหนึ่งที่เต็มไปด้วยขวากหนาม, ซึ่งเขาได้พยายามเดินโดยรวบเสื้อผ้าเอาไว้ ไม่ให้ถูกหนามเกี่ยว แล้วค่อยๆ ย่างก้าวเท้าไปด้วยความระวัง เพื่อป้องกันมิให้หนามหรือเศษกระเบื้องทิ่มแทงเท้า รวบเก็บกางเกงหรือกระโปงเอาไว้ด้วยความระมัดระวัง[6] จากการเปรียบเทียบดังกล่าวนี้เข้าใจได้ว่า ตักวา มิได้หมายถึงว่าการที่คนเราได้ปลีกตัวแยกไปต่างหากตามลำพัง,หรือที่เรียกว่าปลีกวิเวก, ทว่าจำเป็นที่เขาต้องอยู่ในสังคมต่อไป และถ้าสังคมปนเปื้อนความสกปรก เขาก็ต้องปกป้องตัวเองได้[7]

ตักวา คือสัญลักษณ์ที่บ่งบอกให้เห็นถึง ความศรัทธา ที่มีต่อการสร้างสรรค์และมะอาดกล่าวคืออัลลอฮฺ วันฟื้นคืนชีพ มาตรฐานความประเสริฐและเกียรติยศของมนุษย์ โดยถือว่าเป็นมาตรการแห่งบุคลิกภาพของเขาในอิสลาม ดังที่อัลกุรอานกล่าวว่าผู้ที่มีเกียรติยิ่ง  อัลลอฮฺคือ บุคคลที่มีความสำรวมตนต่อบาป[8]

ในมุมมองของอัลกุรอานตักวาคือรัศมีแห่งพระเจ้าเนื่องจากที่ใดก็ตามที่ปรากฏความสำรวมตนที่นั่นจะปรากฏวิชาการความรู้[9]

ระดับของตักวา

ตักวามีอยู่หลายระดับด้วยกัน นักปราชญ์ผู้อาวุโสบางท่านได้แบ่ง ตักวา ไว้ 3 ระดับด้วยกัน

1.การพึงระวงตนเองให้พ้นจากการลงโทษอันถาวร ซึ่งเกิดจากความเชื่อที่ถูกต้อง

2.หลีกเลี่ยงการทำความผิดบาปทั้งหมด ทั้งการละเว้นสิ่งวาญิบ หรือการกระทำที่เป็นบาป

3.การพึงระวังรักษาตนเองจากสิ่งที่จิตใจมนุษย์ผูกพันอยู่กับมัน และทำให้เขาเบี่ยงเบนออกจากความจริงและความถูกต้อง และนี่คือตักวาอันเฉพาะ ทว่าเป็นความเฉพาะพิเศษเหนือความเฉพาะ[10]

สาขาต่างๆ ของตักวา

ตักวา มีสาขาต่างๆ มากมาย, ซึ่งระหว่างสาขาเหล่านั้นสามารถกล่าวถึงประเด็นดังต่อไปนี้ได้ : ตักวาทรัพย์สินและเศรษฐศาสตร์, ตักวาเรื่องเพศ, สังคม, ตักวาด้านการเมือง, ตักวาด้านจริยธรรม, และตักวา ... บุคคลที่มีตักวาคือบุคคลที่พึงระวังตักวาของตนในภารกิจทั้งหมดที่กล่าวมา

ผลพวงของตักวา

ผลของตักวาในชีวิตมนุษย์ในแง่บวกนั้นมีอย่างมากมาย ซึ่งบางอย่างสามารถหยิบยกมากล่าวได้ดังนี้ :

1.การสร้างสรรค์ตนเอง: ท่านอิมามอะลี (.) กล่าวว่า : ตักวาคือ ความพิเศษแห่งจิตวิญญาณ เป็นการอบรมสั่งสอนจิตใจ ซึ่งเบื้องหลังตักวาคือ จิตวิญญาณของมนุษย์จะได้รับการสร้างสรรค์[11]

2.การยอมรับหน้าที่ : บุคคลที่มีความสำรวมตนเขาจะไม่หลบหนีหน้าที่ความรับผิดชอบทางชัรอียฺของตน เขาจะยอมรับหน้าที่นั้นด้วยความรัก และอดทนต่ออุปสรรคปัญหาต่างๆ อย่างผู้มีขันติธรรม

3. เป็นอิสระชน : ตักวาคือเครื่องมือที่ปลดปล่อยมนุษย์ให้รอดพ้นจากการเป็นทาส และเป็นบ่าวของทุกคนและทุกสิ่ง บุคคลที่มีตักวาจะไม่ยอมก้มศีรษะให้แก่ตัณหาราคะ, จะไม่ยอมจำนนตอตำแหน่งลาภยศสรรเสริญ หรือความปรารถนาของอำนาจฝ่ายต่ำ, ด้วยเหตุนี้ เขาจึงมีความปลอดภัยในทุกความหายนะ

4.เป็นผู้มีความสัตย์จริงในปรโลก : แท้จริง ความสำรวมตน (ตักวา) คือกุญแจสำหรับประตูทุกบานที่ถูกปิดอยู่ เสบียงสำหรับวันแห่งการฟื้นคืนชีพ ปัจจัยแห่งความอิสระจากทุกๆ บาปกรรมที่เกิดกับมนุษย์ สาเหตุแห่งความช่วยเหลือให้รอดพ้นความหายนะ เนื่องจากความสำรวมทำให้ผู้ขวนขวายประสบความสำเร็จ ทำให้ผู้หลีกหนี (จากการลงโทษของพระเจ้า) ได้รับความช่วยเหลือ และสามารถไปถึงทุกความหวังที่ตั้งไว้ บุคคลที่มีความสำรวมตน จะเลือกกระทำเฉพาะความดีงาม ย่างก้าวเดินไปบนหนทางแห่งการชี้นำ นอกจากจะได้รับความผาสุกทางโลกแล้ว ยังจะได้รับรางวัลในปรโลกอีกต่างหาก และเขาจะสั่งสมไว้เป็นเสบียงเพื่อวันแห่งการฟื้นคืนชีพของเขา



[1] รอฆิบ เอซฟาฮานี ฮุเซน บินมุฮัมมัด, มุฟรอดาต ฟี เฆาะรีบิลกุรอาน, เล่ม 1 หน้า 881, หมวดคำว่าวะกอดารุลอิลม์ อัดดารุลชามียะฮ, ดามัสกัส, เบรูต, ปี 1512.

[2] อัลกุรอาน บทบะเกาะเราะฮฺ 197 " وَ تَزَوَّدُوا فَإِنَّ خَیْرَ الزَّادِ التَّقْوى"

[3] อัลกุรอาน บทอะอฺรอฟ 26 “وَ لِباسُ التَّقْوى‏ ذلِکَ خَیْرٌ

[4] นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ คำเทศนาที่ 157 “اعلموا عباد اللَّه ان التقوى دار حصن عزیز

[5] นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ คำเทศนาที่ 16 “الا و ان التقوى مطایا ذلل، حمل علیها اهلها و اعطوا ازمتها، فاوردتهم الجنة

[6] อบุลฟุตูฮฺ รอซียฺ, ฮุเซน บิน อะลี, เราเฎาะตุลญันนาน วะรูฮุลญันนาน ฟีตัฟซีริลกุรอาน เล่ม 1 หน้า 101, สถาบันวิจัยและค้นคว้าเกี่ยวกับอิสลาม มณฑลรัฐ ระฎะวี, มัชฮัด, ปี 1408, มะการิมชีรอซียฺ, นาซิร, ตัฟซีรเนะมูเนะฮฺ, เล่ม 1, หน้า 80, ดารุลกุตุบ อัลอิสลามียะฮฺ, พิมพ์ครั้งแรก, เตหะราน 1374.

[7] มะการิมชีรอซียฺ, นาซิร, ตัฟซีรเนะมูเนะฮฺ, เล่ม 22, หน้า 204,

[8] อัลกุรอาน บทฮุจญฺรอต 14 “اتَّقُوا اللَّهَ وَ یُعَلِّمُکُمُ اللَّهُ

[9] อัลกุรอาน บทบะเกาะเราะฮฺ 282 “จงสำรวมตนต่ออัลลอฮฺเถิด แล้วอัลลอฮฺจะสอนพวกท่าน

[10] ตัฟซีรเนะมูเนะฮฺ, เล่ม 22, หน้า 205, อัลลามะฮฺ มัจญฺลิสซียฺ, บิฮารุลอันวาร, เล่ม 70, หน้า 136, สถาบัน อัลวะฟาอฺ, เบรูต เลบานอน ปี .. 1404

[11] นะฮฺญุลบะลาเฆาะฮฺ คำเทศนาบทมุตตะกีน

แปลคำถามภาษาต่างๆ
ความเห็น
จำนวนความเห็น 0
กรุณาป้อนค่า
ตัวอย่าง : Yourname@YourDomane.ext
กรุณาป้อนค่า
<< ลากฉัน
กรุณากรอกจำนวนที่ถูกต้องของ รหัสรักษาความปลอดภัย

หมวดหมู่

คำถามสุ่ม

  • มีฟัตวาเกี่ยวกับอาชีพที่สองไหม? หรือว่าการมีอาชีพที่สองเท่ากับเป็นคนหลงโลก?
    7356 สิทธิและกฎหมาย 2555/01/23
    ในทัศนะอิสลามไม่มีความหมายอันใดเกี่ยวกับอาชีพหรืออาชีพที่สอง, สิ่งที่ศาสนาอิสลามหรืออัลลอฮฺ (ซบ.) ได้ประณามเอาไว้คือ, ความลุ่มหลงและจิตผูกพันอยู่กับโลกทำให้ห่างไกลจากศีลธรรมและปรโลก
  • ปรัชญาของการทำกุรบานในพิธีฮัจญ์คืออะไร?
    11572 สิทธิและกฎหมาย 2555/04/28
    บทบัญญัติและข้อปฏิบัติทั้งหมดในศาสนาอิสลามนั้นตราขึ้นโดยคำนึงถึงความเหมาะสมและคุณประโยชน์สำหรับทุกสิ่งมีชีวิตอย่างทั่วถึง บทบัญญัติของอิสลามประการหนึ่งที่เป็นข้อบังคับสำหรับผู้ประกอบพิธีฮัจย์ก็คือการเชือดกุรบานในวันอีดกุรบาน ณ แผ่นดินมินา จุดเด่นของการทำกุรบานในพิธีฮัจญ์คือ “การที่ผู้ประกอบพิธีฮัจย์ได้คำนึงถึงการเชือดเฉือนอารมณ์ไฝ่ต่ำของตนเอง ,การแสวงความใกล้ชิดยังพระผู้เป็นเจ้า, การช่วยเหลือผู้ยากไร้ ฯลฯ ซึ่งแม้ว่าในบางกรณีจะไม่ได้ใช้ประโยชน์จากเนื้อกุรบานก็จริง แต่ก็ทำให้ได้รับประโยชน์ทางจิตใจดังที่กล่าวไปแล้ว เป็นที่น่ายินดีที่ในหลายปีมานี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายตามโรงเชือดสัตว์ที่นครมักกะฮ์ โดยเฉพาะการแช่แข็งเนื้อสัตว์ทำให้สามารถแจกจ่ายเนื้อเหล่านี้ให้แก่ผู้ยากไร้ ซึ่งช่วยไม่ให้เนื้อสัตว์เหล่านี้สูญเสียไปอย่างเปล่าประโชน์ ถึงแม้ว่าการจัดการทั้งหมดนี้จะไม่ส่งผลร้อยเปอร์เซนต์ แต่ก็เชื่อได้ว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว โดยอีกไม่ช้ากระบวนการดังกล่าวอาจจะแล้วเสร็จร้อยเปอร์เซ็นต์ ...
  • ฮะดีซต่างๆ ในหนังสือกาฟียฺ สามารถอธิบายความอัลกุรอานได้หรือไม่?
    7733 ดิรอยะตุลฮะดีซ 2555/07/16
    นักรายงานฮะดีซผู้ยิ่งใหญ่ท่านหนึ่งคือ มุฮัมมัด บิน ยะอฺกูบ กุลัยนียฺ (รฮ.) เป็นหนึ่งในปราชญ์ผู้อาวุโสฝ่ายชีอะฮฺ และเป็นหนึ่งในนักรายงานฮะดีซที่เชื่อถือได้มากที่สุดของฝ่ายอิมามียะฮฺ ท่านอยู่ในยุคสมัยการเร้นกายระยะสั้นของท่านอิมามมะฮฺดียฺ (อ.) และยังเป็นผู้ประพันธ์หนังสือ อุซูลกาฟียฺ อันเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยเหตุนี้เอง จะเห็นว่ารายงานส่วนใหญ่ในหนังสือกาฟียฺล้วนเป็นที่เชื่อถือ แต่หนังสือกาฟียฺก็เหมือนกับหนังสือฮะดีซทั่วไปที่มีรายงานอ่อนแอ และไม่น่าเชื่อถืออยู่บ้าง ตามทัศนะของชีอะฮฺและอะฮฺลุซซุนนะฮฺ มีฮะดีซที่ถูกต้องจำนวนมากมายจากท่านศาสดา (ซ็อลฯ) และอิมามผู้บริสุทธิ์ บันทึกอยู่ในหนังสือญะวามิอฺริวายะฮฺ ซึ่งฮะดีซจำนวนมากเหล่านั้นได้ตัฟซีรโองการอัลกุรอาน ซึ่งหนึ่งในฮะดีซทรงคุณค่าเหล่านั้นคือ หนังสือกาฟียฺ ...
  • อิมามโคมัยนีเชื่อว่าการร่ำไห้และการไว้อาลัยแด่อิมามฮุเซน(อ.)สามารถรักษาอิสลามให้คงอยู่ถึงปัจจุบันไช่หรือไม่? เพราะเหตุใด?
    8014 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/12/08
    คำถามนี้ไม่มีคำตอบแบบสั้น ปรดเลือกปุ่มคำตอบที่สมบูรณ์ ...
  • ข้อความละอ์นัตในซิยารัตอาชูรอครอบคลุมถึงบุตรชายยะซีดด้วยซึ่งเป็นคนดี แล้วจะถือว่าซิยารัตนี้น่าเชื่อถือได้อย่างไร?
    6962 ดิรอยะตุลฮะดีซ 2554/12/21
    ในซิยารัตอาชูรอมีการละอ์นัตกลุ่มบนีอุมัยยะฮ์ซึ่งรวมถึงบุตรชายยะซีดด้วยในขณะที่นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าบุตรชายของยะซีดและสมาชิกบนีอุมัยยะฮ์บางคนเป็นคนดีเนื่องจากเคยทำประโยชน์บางประการซึ่งย่อมไม่สมควรจะถูกละอ์นัตเพื่อชี้แจงข้อสงสัยดังกล่าวควรทราบว่าบนีอุมัยยะฮ์ในที่นี้หมายความเฉพาะผู้ที่มีความคิดเห็นสอดคล้องกันกับพวกเขาอันหมายถึงผู้กระทำผิดผู้วางเฉยผู้ปีติยินดี ... ฯลฯต่อการแย่งชิงสิทธิอันชอบธรรมของบรรดาอิมาม(อ.) ตลอดจนการสังหารท่านเหล่านั้นและสาวกหากคำนึงถึงประโยคก่อนและหลังท่อนดังกล่าวในซิยารัตอาชูรอก็จะเข้าใจจุดประสงค์ดังกล่าวได้ไม่ยากเนื่องจากบรรยากาศของซิยารัตบทนี้เต็มไปด้วยละอ์นัตและการสาปแช่งกลุ่มบุคคลที่ยึดครองตำแหน่งคิลาฟะฮ์และพยายามจะดับรัศมีของอัลลอฮ์โดยทำทุกวิถีทางเพื่อต่อกรกับอะฮ์ลุลบัยต์รวมไปถึงกลุ่มบุคคลที่ให้การสนับสนุนและพึงพอใจในพฤติกรรมของกลุ่มแรก ฉะนั้นในทางวิชาอุศู้ลแล้วเราถือว่าการยกเว้นบุคคลที่ดีออกจากนัยยะของคำว่าบนีอุมัยยะฮ์นั้นเป็นการยกเว้นประเภท “ตะค็อศศุศ” มิไช่ “ตัคศี้ศ” หมายความว่าคำว่าบนีอุมัยยะฮ์ไม่ครอบคลุมถึงบุคคลเหล่านี้ตั้งแต่แรกแล้วจึงไม่จำเป็นต้องยกเว้นเป็นกรณีพิเศษ ...
  • ทิฐิที่ปรากฏในกุรอานมีความหมายอย่างไร? มีสาเหตุ ผลลัพธ์ และวิธีแก้อย่างไร? คนมีทิฐิมีคุณลักษณะอย่างไร?
    11925 จริยธรรมปฏิบัติ 2555/09/20
    การถืออคตินับเป็นอุปนิสัยที่น่ารังเกียจยิ่ง เราสามารถวิเคราะห์อุปนิสัยดังกล่าวจากหลายแง่มุมด้วยกัน ทั้งนี้ก็เนื่องจากมีผลร้ายหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นผลร้ายเชิงปัจเจกหรือสังคม จิตใจและร่างกาย โลกนี้และโลกหน้า อิสลามได้ตีแผ่ถึงรากเหง้าและผลเสียของการถือทิฐิ ตลอดจนนำเสนอวิธีปรับปรุงตนเองเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้อย่างถี่ถ้วน ...
  • การเล่นนกพิราบในอิสลามมีกฎอย่างไรบ้าง, เพราะเหตุใด?
    7862 สิทธิและกฎหมาย 2555/01/23
    การกระทำดังกล่าวโดยตัวของมันแล้วไม่มีปัญหาทางชัรอียฺแต่อย่างใดแต่โดยปกติแล้วถ้าเป็นการกลั่นแกล้งคนอื่นหรือเพื่อนบ้านซึ่งในบางพื้นที่ประชาชนจะมองว่าเขาเป็นคนมักง่ายเห็นแก่ตัวดังนั้นจึงสามารถกล่าวได้ว่าการกระทำเช่นนั้นมีปัญหา, ด้วยเหตุนี้มัรญิอฺตักลีดจึงได้มีทัศนะเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากกระทำนั้นไว้ดังนี้:สำนักฯพณฯท่านอายะตุลลอฮฺอัลอุซมาคอเมเนอียฺ (
  • เกี่ยวกับวิลายะฮฺที่มีเหนือมุอฺมิน ซึ่งอยู่ในอำนาจของอะอิมมะฮฺ, ท่านมีทัศนะอย่างไร?
    5730 เทววิทยาดั้งเดิม 2555/01/23
    คำตอบของท่านอายะตุลลอฮฺ มะฮฺดี ฮาดะวี เตหะรานนี (ขออัลลอฮฺทรงคุ้มครอง) มีรายละเอียดดังนี้ :บรรดาอิมามมะอฺซูม (อ.) มีวิลายะฮฺทั้งวิลายะฮฺตักวีนีและตัชรีอียฺเหนือบรรดาผู้ศรัทธาทั้งหลาย แต่การปฏิบัติวิลายะฮฺขึ้นอยู่กับความเหมาะสม ...
  • กรุณาอธิบายเกี่ยวกับสายรายงานและเนื้อหาของซิยารัตอาชูรอ
    6427 ดิรอยะตุลฮะดีซ 2554/12/10
    แหล่งอ้างอิงหลักของซิยารัตบทนี้ก็คือหนังสือสองเล่มต่อไปนี้กามิลุซซิยารอตประพันธ์โดยญะฟัรบินมุฮัมมัดบินกุละวัยฮ์กุมี (เสียชีวิตฮ.ศ.348) และมิศบาฮุ้ลมุตะฮัจญิดีนของเชคฏูซี (ฮ.ศ.385-460) ตามหลักบางประการแล้วสายรายงานของอิบนิกูละวัยฮ์เชื่อถือได้แต่สำหรับสายรายงานที่ปรากฏในหนังสือมิศบาฮุ้ลมุตะฮัจญิดีนนั้นต้องเรียนว่าหนังสือเล่มนี้นำเสนอซิยารัตนี้ผ่านสองสายรายงานซึ่งสันนิษฐานได้สามประการเกี่ยวกับผู้รายงานฮะดีษหนึ่ง:น่าเชื่อถือ
  • อัลกุรอาน บทนิซาอฺ โองการที่ 29 กล่าวว่า(... إِلاَّ أَن تَكُونَ تِجَارَةً عَن تَرَاضٍ مِّنكُمْ): ทำไมจึงกล่าวว่า تَرَاضٍ مِّنكُمْ ความพอใจในหมู่สูเจ้า เพราะเหตุใดไม่กล่าวว่า تراض بینکم ความพอใจระหว่างพวกเจ้า
    8520 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/05/17
    อัลกุรอาน กล่าวว่า »โอ้ บรรดาผู้มีศรัทธา! จงอย่ากินทรัพย์ของสูเจ้าในระหว่างสูเจ้ากันเองโดยทุจริต (ได้มาโดยวิธีต้องห้าม) นอกจากจะเป็นการค้าขายที่เกิดจากความพอใจในหมู่สูเจ้ากันเอง[1]« โองการนี้เป็นหนึ่งบทบัญญัติของอิสลามที่ว่าด้วยเรื่อง การค้าขายแลกเปลี่ยนและธุรกรรมการเงิน ด้วยเหตุนี้ บทบัญญัติอิสลาม จึงได้ใช้โองการข้างต้นพิสูจน์ปัญหาเรื่องการค้าขาย ประโยคที่กล่าวว่า «إلَّا أَنْ تَكُونَ تِجارَةً عَنْ تَراضٍ» “นอกจากจะเป็นการค้าขายที่เกิดจากความพอใจในหมู่สูเจ้ากันเอง” ในโองการข้างต้น, เป็นการละเว้นเด็ดขาดจากบทบัญญัติทั่วไปก่อนหน้านี้, ด้วยคำอธิบายว่า การหยิบจ่ายใช้สอยทรัพย์สินของคนอื่นแบบไม่ถูกต้อง (บาฏิล) หรือไม่ยุติธรรมและไม่เป็นที่พอใจของเขา หรือไม่ถูกต้องตามหลักการคำสอน, ถือว่าฮะรอมและบาฏิล เว้นเสียแต่ว่าจะได้มาโดยการทำการค้าขาย (การเป็นเจ้าของด้วยเงื่อนไขการกำหนดข้อตกลง) แต่สิ่งนั้นก็ยังต้องขึ้นอยู่กับความพึงพอใจของทั้งสองฝ่าย ที่ได้ตกลงทำการค้าขายกัน, ด้วยเหตุนี้ ธุรกรรมการเงินทั้งหมด และการค้าขายทุกประเภทต้องเกิดจากความพอใจทั้งสองฝ่ายแล้ว ...

เนื้อหาที่มีผู้อ่านมากที่สุด

  • อะไรคือหน้าที่ๆภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีบ้าง?
    59724 สิทธิและกฎหมาย 2554/07/07
    ความมั่นคงของชีวิตคู่ขึ้นอยู่กับความรักความผูกพัน ความเข้าใจ การให้เกียรติและเคารพสิทธิของกันและกัน และเพื่อที่สถาบันครอบครัวจะยังคงมั่นคงเป็นปึกแผ่น อิสลามจึงได้ระบุถึงสิทธิของทั้งภรรยาและสามี ขณะเดียวกันก็ได้กำหนดหน้าที่สำหรับทั้งสองฝ่ายไว้ด้วย เนื่องจากเมื่ออัลลอฮ์ประทานสิทธิ ก็มักจะกำหนดหน้าที่กำกับไว้ด้วยเสมอ ข้อเขียนนี้จะนำเสนอหน้าที่ทางศาสนาบางส่วนที่ภรรยาพึงปฏิบัติต่อสามีดังต่อไปนี้:1. ...
  • ดุอาใดบ้างที่ทำให้ได้รับพรเร็วที่สุด?
    57089 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/07/03
    มีดุอาที่รายงานจากอิมาม(อ.)หลายบทที่กล่าวขานกันว่าเห็นผลตอบรับอย่างรวดเร็ว แต่เนื่องจากไม่สามารถนำเสนอเนื้อหาดุอาทั้งหมด ณ ที่นี้ได้ จึงขอกล่าวเพียงชื่อดุอาที่มีความสำคัญเป็นพิเศษดังต่อไปนี้1. ดุอาตะวัซซุ้ล2. ดุอาฟะร็อจ
  • กรุณานำเสนอบทดุอาเพื่อให้ได้พบคู่ครองที่เหมาะสมและเปี่ยมด้วยตักวา
    41902 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/06/12
    ทุกสิ่งทุกอย่างย่อมมีปัจจัยและเงื่อนไขจำเพาะตามที่พระเจ้าทรงกำหนดหากเราประสงค์สิ่งใดย่อมต้องเริ่มจากการตระเตรียมปัจจัยและเงื่อนไขเสียก่อนปัจจัยของการแต่งงานคือการเสาะหาและศึกษาอย่างละเอียดทว่าเพื่อความสัมฤทธิ์ผลในการดังกล่าวจำเป็นต้องขอความช่วยเหลือจากอัลลอฮ์เพื่อทรงชี้นำการตัดสินใจและความพยายามของเราให้บรรลุดังใจหมาย.การอ่านบทดุอาต่างๆที่รายงานจากบรรดาอิมาม(อ)ต้องควบคู่กับความพยายามศึกษาและเสาะหาคู่ครองอย่างถี่ถ้วน. หนึ่งในดุอาที่เกี่ยวกับเรื่องนี้โดยเฉพาะก็คือรายงานที่ตกทอดมาจากท่านอลี(อ)ดังต่อไปนี้: “ผู้ใดประสงค์จะมีคู่ครอง
  • ด้วยเหตุผลอันใดที่ต้องกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อน บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม?
    38744 วิทยาการกุรอาน 2555/08/22
    หนึ่งในมารยาทของการอ่านอัลกุรอาน ซึ่งมีกล่าวไว้ในอัลกุรอาน และรายงานฮะดีซคือ การกล่าว อะอูซุบิลลาฮิ มินัชชัยฏอน นิรเราะญีม ก่อนที่จะเริ่มอ่านอัลกุรอาน หรือแม้แต่ให้กล่าวก่อนที่จะกล่าว บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม เสียด้วยซ้ำไป ด้วยเหตุผลที่ว่า บิซมิลลาฮิรเราะฮฺมานนิรเราะฮีม นั้นเป็นส่วนหนึ่งของอัลกุรอาน อย่างไรก็ตามการขอความคุ้มครองจากอัลลอฮฺ มิใช่แค่เป็นเพียงคำพูดเท่านั้น ทว่าสิ่งนี้จะต้องฝังลึกอยู่ภายในจิตวิญญาณของเรา ซึ่งต้องสำนึกสิ่งนี้อยู่เสมอตลอดการอ่านอัลกุรอาน ...
  • ครูบาอาจารย์และลูกศิษย์(นักเรียนนักศึกษา)มีหน้าที่ต่อกันอย่างไร?
    38597 จริยธรรมปฏิบัติ 2554/11/14
    ผู้สอนและผู้เรียนมีหน้าที่ต่อกันหลายประการด้วยกันซึ่งสามารถจำแนกออกเป็นสองส่วนก. หน้าที่ที่ผู้สอนมีต่อผู้เรียนอันประกอบด้วยหน้าที่ทางจริยธรรมการอบรมและวิชาการ ข. หน้าที่ที่ผู้เรียนมีต่อผู้สอนอาทิเช่นการให้เกียรติครูบาอาจารย์ยกย่องวิทยฐานะของท่านนอบน้อมถ่อมตน ...ฯลฯ ...
  • ก่อนการสร้างนบีอาดัม(อ) เคยมีการแต่งตั้งญินให้เป็นศาสนทูตสำหรับฝ่ายญินหรือไม่?
    33719 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/06/12
    อัลกุรอานยืนยันการมีอยู่ของเหล่าญินรวมทั้งได้อธิบายคุณลักษณะบางประการไว้ถึงแม้ว่าข้อมูลของเราเกี่ยวกับโลกของญินจะค่อนข้างจำกัดแต่เราสามารถพิสูจน์ว่าเหล่าญินเคยมีศาสนทูตที่เป็นญินก่อนการสร้างนบีอาดัมโดยอาศัยเหตุผลต่อไปนี้:1. เหล่าญินล้วนมีหน้าที่ทางศาสนาเฉกเช่นมนุษย์เราแน่นอนว่าหน้าที่ทางศาสนาย่อมเป็นผลต่อเนื่องจากการสั่งสอนศาสนาด้วยเหตุนี้จึงมั่นใจได้ว่าอัลลอฮ์ทรงเคยแต่งตั้งศาสนทูตสำหรับกลุ่มชนญินเพื่อการนี้2. เหล่าญินล้วนต้องเข้าสู่กระบวนการพิพากษาในวันกิยามะฮ์เฉกเช่นมนุษย์เราซึ่งโดยทั่วไปแล้วก่อนกระบวนการพิพากษาทุกกรณีจะต้องมีการชี้แจงข้อกฏหมายจนหมดข้อสงสัยเสียก่อนและการชี้แจงให้หมดข้อสงสัยคือหน้าที่ของบรรดาศาสนทูตนั่นเอง
  • เนื่องจากอัลลอฮฺทรงรอบรู้เหนือโลกและจักรวาล ฉะนั้น วัตถุประสงค์การทดสอบของอัลลอฮฺคืออะไร?
    27696 เทววิทยาดั้งเดิม 2554/03/08
    ดังที่ปรากฏในคำถามว่าการทดสอบของอัลลอฮฺไม่ได้เพื่อการค้นหาสิ่งที่ยังไม่รู้เนื่องจากอัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงปรีชาญาณเหนือทุกสรรพสิ่งแต่อัลกุรอานหลายโองการและรายงานที่ตกมาถึงมือเรากล่าวว่าการทดสอบเป็นแบบฉบับหนึ่งและเป็นกฎเกณฑ์ของพระเจ้าที่วางอยู่บนแบบฉบับอื่นๆอันได้แก่การอบบรมสั่งสอนการชี้นำโดยรวมของพระเจ้าอัลลอฮฺ
  • ปีศาจ (ซาตาน) มาจากหมู่มะลาอิกะฮฺหรือญิน ?
    27522 การตีความ (ตัฟซีร) 2553/12/22
    เกี่ยวกับคำถามที่ว่าชัยฎอนเป็นมะลาอิกะฮฺหรือญินมีมุมมองและทัศนะแตกต่างกันแหล่งที่มาของความขัดแย้งนี้เกิดจากเรื่องราวการสร้างนบีอาดัม (อ.) เนื่องจากเป็นคำสั่งของพระเจ้ามวลมะลาอิกะฮ์ทั้งหลายจึงได้กราบสุญูดอาดัมแต่ซาตานไม่ได้ก้มกราบบางคนกล่าวว่าชัยฎอน (อิบลิส) เป็นมะลาอิกะฮฺ, โดยอ้างเหตุผลว่าเนื่องจากโองการอัลกุรอานกล่าวละเว้น, อิบลิสไว้ในหมู่ของมะลาอิกะฮฺ (มะลาอิกะฮ์ทั้งหมดลดลงกราบยกเว้นอิบลิส) ดังนั้นอิบลิส
  • อายะฮ์ إِذا مَا اتَّقَوْا وَ آمَنُوا وَ عَمِلُوا الصَّالِحاتِ ثُمَّ اتَّقَوْا وَ آمَنُوا ثُمَّ اتَّقَوْا وَ أَحْسَنُوا وَ اللَّهُ یُحِبُّ الْمُحْسِنین การกล่าวซ้ำดังกล่าวมีจุดประสงค์ใด?
    27350 การตีความ (ตัฟซีร) 2555/02/07
    ในแวดวงวิชาการมีความเห็นแตกต่างกันในเรื่องการย้ำคำว่าตักวาในโองการข้างต้นบ้างเชื่อว่ามีจุดประสงค์เพื่อให้เล็งเห็นความสำคัญของประเด็นเกี่ยวกับตักวาอีหม่านและอะมั้ลที่ศอลิห์
  • เมื่ออัลลอฮฺ มิทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายจากสิ่งใดทั้งหมด, หมายความว่าอำนาจของพระองค์ได้ถ่ายโอนไปสู่วัตถุปัจจัยกระนั้นหรือ?
    25412 รหัสยทฤษฎี 2555/05/17
    ใช่แล้ว การสร้างจากสิ่งไม่มีตัวตนมีความหมายตามกล่าวมา, เนื่องจากคำว่า ไม่มีตัวตน คือไม่มีอยู่ก่อนจนกระทั่งอัลลอฮฺ ทรงสร้างสิ่งนั้นขึ้นมา รายงานฮะดีซก็กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้เช่นกันว่า อำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า มีความเป็นหนึ่งเดียวกันกับคุณลักษณะอื่นของพระองค์ ซึ่งเกินเลยอำนาจความรอบรู้ของมนุษย์ เนื่องจากสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลายได้ถูกสร้างขึ้นมา จากสิ่งไม่มี ซึ่งตามความเป็นจริงแล้วสรรพสิ่งถูกสร้างทั้งหลาย เปรียบเสมือนภาพที่ถ่ายโอนอำนาจสัมบูรณ์ของพระเจ้า เราเรียกนิยามนี้ว่า “การสะท้อนภาพ”[1]ซึ่งในรายงานฮะดีซได้ใช้คำว่า “การเกิดขึ้นของคุณลักษณะ” : อัลลอฮฺ (ซบ.) ทรงเป็นพระผู้อภิบาลของเราที่มีความเป็นนิรันดร์ ความรอบรู้คือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีความรอบรู้อันใด การได้ยินคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการได้ยินใดๆ การมองเห็นคือ อาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีการมองเห็นอันใด อำนาจคืออาตมันของพระองค์ ขณะที่ไม่มีอำนาจอันใด และเนื่องจากพระองค์คือ ผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลาย ทำให้สิ่งเหล่านั้นมีและเป็นไป ความรู้ของพระองค์ได้ปรากฏบนสิ่งถูกรู้จักทั้งหลาย การได้ยิน ได้ปรากฏบนสิ่งที่ได้ยินทั้งหลาย การมองเห็นได้ปรากฏบนสิ่งมองเห็น และอำนาจของพระองค์ ...